รีวิว : 1-2 Switch Nintendo Switch
1-2-Switch Nintendo Switch เริ่มจากเครื่อง Wii จะขายได้มากกว่า 100 ล้านเครื่องถ้าไม่แถม Wii Sports หรือไม่? อาจเป็นคำถามที่ไร้จุดหมายที่จะไตร่ตรองมานานกว่าทศวรรษหลังจากการเปิดตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอลเล็กชั่นชื่อกีฬาที่ควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียงโน้มน้าวนักพนันหลายคนให้มีส่วนร่วมกับเงินสดที่หามาอย่างยากลำบาก เป็นโฆษณาในอุดมคติสำหรับคอนโซลใหม่และรีโมตคอนโทรล Wii ที่เป็นเอกลักษณ์ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการควบคุมการเคลื่อนไหวในเวลาไม่กี่วินาที คุณเหวี่ยงแขนและการกระทำนั้นถูกจำลองโดยอวาตาร์ของคุณ มันเป็นแนวคิดง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เข้าใจได้อย่างแท้จริง
กรอไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนถึงปัจจุบัน และ 1-2-Switch พบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่คล้ายกันมาก คอลเล็กชั่นมินิเกม 28 เกมที่อิงตามฟังก์ชันของคอนโทรลเลอร์ Nintendo Switch Joy-Con มีวัตถุประสงค์เพื่อขายคุณสมบัติเฉพาะของฮาร์ดแวร์ให้กับนักเล่นเกมและผู้ที่ไม่ใช่เกม แต่คราวนี้มีความแตกต่างที่สำคัญ – 1- 2-Switch ไม่ใช่ชื่อแพ็คอิน แต่เป็นรุ่นขายปลีกเต็มรูปแบบ เนื้อหานั้นไม่สำคัญหรอกว่าเนื้อหานั้นจะเป็นศูนย์หรือไม่ แต่น่าเศร้าที่ยังมีองค์ประกอบบางอย่างที่รู้สึกว่ายังไม่สุกและมากกว่าการสาธิตเทคโนโลยีที่พิสูจน์แนวคิดเพียงเล็กน้อย
มินิเกม 28 มินิเกมของ 1-2-Switch นำหน้าด้วยวิดีโอแนะนำซึ่งสรุปสิ่งที่ผู้เล่นต้องการ ครั้งแรกที่คุณเปิดเครื่องเกม คุณตั้งใจที่จะจำกัดให้เหลือมินิเกมกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้ แต่เมื่อคุณได้เล่นผ่านสิ่งเหล่านี้แล้ว ส่วนประกอบทั้งหมดก็เปิดขึ้น แนะนำให้กระโดดเข้าและออกจากเกม การกดสัญลักษณ์ “บวก” หรือ “ลบ” บน Joy-Con จะนำคุณกลับไปที่เมนูเลือกเกมโดยตรง เมื่อคุณตัดสินใจเลือกความท้าทายได้แล้ว ก็ถึงเวลาหาเพื่อนและเข้าไปมีส่วนร่วม
1-2-Switch ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อแสดงสิ่งที่ Joy-Con ทำได้จริงๆ Ball Count เป็นหนึ่งในดาวเด่นของแพ็คเกจ เนื่องจากมันแสดงให้เห็นอย่างสมบูรณ์แบบถึงศักยภาพอันน่าทึ่งของ HD Rumble เมื่อคุณเคลื่อน Joy-Con ไปรอบๆ ในมือ คุณจะ “รู้สึก” ลูกบอลกลิ้งอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นภาพลวงตาทั้งหมด แต่ก็น่าเชื่ออย่างน่าประหลาดใจเหมือนกัน Rumble นั้นใช้ได้ดีในเกมอื่นๆ เช่น Sneaky Dice, Shaving และ Safe Crack ซึ่งคุณพยายามจะบุกเข้าไปในตู้เซฟโดยการหมุนตัวควบคุมในมือของคุณและตรวจจับการคลิกปากโป้งที่แสดงถึงการผสมผสานที่ถูกต้อง
Treasure Chest ผสมผสาน HD Rumble เข้ากับการจดจำการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ โดยมีแนวคิดที่จะแก้โซ่รอบๆ หีบสมบัติให้เร็วกว่าคู่ต่อสู้ของคุณ ขณะที่โซ่แต่ละเส้นหลุดออกไป คุณจะสัมผัสได้ว่าโซ่ทำงานได้อย่างอิสระด้วยแรงสะท้อนกลับ และการบิดและการหมุนของตัวควบคุมระหว่างนิ้วของคุณนั้นจำลองได้อย่างสมบูรณ์แบบบนหน้าจอ นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องใน 1-2-Switch ที่จะขอให้คุณดูทีวี (หรือถ้าคุณเล่นในโหมดพกพา หน้าจอสวิตช์); อีกหลายคนจะต้องเล่นโดยให้ดวงตาของคุณจับจ้องไปที่ผู้เล่นอีกคนอย่างแน่นหนา
สำหรับการแข่งขัน Eat Contest ผู้เล่นทั้งสองจะต้องใช้ Joy-Con ทางขวามือ เนื่องจากเป็นคู่เดียวเท่านั้นที่มีกล้อง IR เพื่อตรวจสอบปากของคุณขณะที่คุณแกล้งทำเป็นว่ากินแซนด์วิชเป็นชุด Baby เป็นมินิเกมอีกเกมหนึ่งที่ผสมผสานสิ่งต่าง ๆ ในแง่ของการควบคุม Joy-Con เชื่อมต่อกับสวิตช์และใบหน้าร้องไห้ของทารกปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ดังที่ผู้ปกครองทุกคนทราบ ต้องใช้หินที่อ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมทารกที่อารมณ์ไม่ดี แต่เสียงร้องที่เปล่งออกมาจากลำโพงของคอนโซลทำให้สิ่งนี้เป็นโอกาสที่พ่อแม่คนเดียวกันอาจต้องการหลีกเลี่ยง เกรงว่ามันจะนำความทรงจำแย่ๆ ของการนอนไม่หลับคืนกลับมา
เกมอื่นๆ ใช้ความสามารถในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของ Joy-Con เพื่อมอบประสบการณ์แบบที่เราทุกคนคิดว่าตายไปพร้อมกับ Wii การต่อสู้ด้วยดาบและการฝึกซามูไรนั้นค่อนข้างอธิบายตนเองได้ เช่นเดียวกับเบสบอลและมวย เช่นเดียวกับกรณีของ Wii Remote มันง่ายที่จะ “หลอก” ฮาร์ดแวร์ให้คิดว่าคุณกำลังป้อนข้อมูลที่ถูกต้องในระหว่างเกมเหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าขัดต่อจิตวิญญาณของการแข่งขันแบบตัวต่อตัวสำหรับผู้เล่นสองคน – ความจริงที่ว่าคุณมักจะมองไปที่คู่ต่อสู้ของคุณอยู่เสมอ อย่างน้อยก็ทำให้คุณซื่อสัตย์ เกมรีดนมและเขย่าโซดาที่น่าอับอายเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้สึกของจังหวะเวลาด้วย พวกเขายังเป็นไฮไลท์เพราะพวกเขาไม่สามารถเล่นด้วยใบหน้าตรงได้ เพิ่มความน่าดึงดูดใจของปาร์ตี้ของ 1-2-Switch
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกเกมที่รวมอยู่ในแพ็คเกจนี้จะเล่นได้มากกว่าหนึ่งครั้ง Beach Flag เกี่ยวข้องกับการเหวี่ยง Joy-Con ให้เร็วกว่าคู่ต่อสู้ของคุณ ในขณะที่ Runway ซึ่งคุณได้รับมอบหมายให้เดินบนแคทวอล์คอย่างมีสไตล์มากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ คืองานอดิเรกประเภทหนึ่งที่คุณน่าจะเพลิดเพลินได้ก็ต่อเมื่อคุณ เคยมีเครื่องดื่มที่มีฟองมากเกินไป อาจกล่าวได้เช่นเดียวกันสำหรับ Air Guitar และ Dance Off ที่ไม่ชัดเจนอย่างเฮฮา ในขณะที่เกมสุดท้าย – Gorilla – เกี่ยวข้องกับการทุบหน้าอกของคุณให้ทันจังหวะของป่า ไม่ใช่ว่าเกมเหล่านี้ขาดคุณค่าด้านความบันเทิง – หากลุ่มคนที่ใช่มารวมกันและพวกเขาก็ค่อนข้างน่าขบขัน – แต่ไม่มีรูปร่างที่ลึกล้ำหรือความท้าทายอย่างแท้จริง
นอกเหนือจาก 28 เกมแล้ว เนื้อหาอื่นๆ ที่ 1-2-Switch นำเสนอคือโหมดการต่อสู้แบบทีมสำหรับผู้เล่นสูงสุด 20 คน เป้าหมายคือไปให้ถึงจุดสิ้นสุดของกระดานก่อนทีมอื่น โดยความสำเร็จในแต่ละเกมจะตอบแทนคุณด้วยการหมุนแป้นหมุนเพื่อดันโทเค็นของคุณไปข้างหน้า การเล่นแบบสับเปลี่ยนเป็นเกมประเภทเดียวเท่านั้น ซึ่งจะสุ่มเลือกเกมสำหรับช่วงเวลาที่คุณกำลังลำบากในการตัดสินใจ
บทสรุป
1-2-Switch ทำงานได้ดีมากในการแสดงชุดคุณลักษณะเฉพาะของสวิตช์และตัวควบคุม Joy-Con แต่ขาดความน่าสนใจในระยะยาว เมื่อเล่นร่วมกับกลุ่มเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว ถือเป็นการบีบแตรที่เหมาะสม และมีความดึงดูดใจในการเล่นเกมทางสังคมแบบเดียวกับที่ทำให้ Wii Sports เป็นประเพณีในห้องนั่งเล่นสำหรับหลายครัวเรือนทั่วโลก แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่ว่ามินิเหล่านี้จำนวนมาก – เกมขาดอายุขัย บางอย่างพื้นฐานมากจนไม่สามารถรักษาความสนใจของคุณได้ตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ว่าคุณจะและเพื่อนของคุณจะมึนเมาแค่ไหนก็ตาม
สำหรับเกมขายปลีก 1-2-Switch ให้ความรู้สึกโลหิตจางเล็กน้อย และน่าจะเหมาะกว่ามากสำหรับเกมแบบแพ็คอิน Nintendo ได้โต้แย้งจุดยืนนี้โดยอ้างว่าไม่สามารถรวมเกมได้เนื่องจากราคาสูง แต่การรวมรหัสดาวน์โหลดพร้อมกับสวิตช์แต่ละเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจริงใด ๆ นอกเหนือจากการขายปลีกที่สูญเสียไปแน่นอน – และนั่นก็จะมี เป็นการแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลเมื่อคุณพิจารณาว่าโฆษณาเกมนี้แข็งแกร่งเพียงใดสำหรับระบบ มีคนขายเครื่อง Wii ได้กี่คนโดยดูจาก Wii Sports ที่บ้านเพื่อน? ด้วยการปฏิเสธที่จะรวม 1-2-Switch กับระบบฐาน Nintendo พลาดโอกาสในการเปิดเผยที่การตลาดไม่สามารถซื้อคุณได้ เมื่อปล่อยแบบสแตนด์อโลนมันให้ความรู้สึกชั่วขณะและชั่วคราวเกินไป แต่ในฐานะที่เป็นแพ็คอินฟรี เนื้อหาน่าจะน่าดึงดูดกว่ามาก
